ที่ผ่านมามีอดีตพลทหารเพิ่งปลดประจำการเล่าให้ฟังว่าเดือนแรกๆ ของการเข้าไปรับใช้ชาติ ค่าชุดทหารถูกหักออกจากเงินเดือน (หรือที่เรียกกันว่าเบี้ยเลี้ยงพลทหาร) อย่างต่ำประมาณ 2,000 – 3,000 บาท เบี้ยเลี้ยงสามเดือนแรกกว่าจะได้มาจึงตกอยู่ที่หลักร้อยเพราะถูกหักออกไปแล้วด้วยค่าเครื่องแบบทหารหลายพันบาทแบบทยอยหักทีละเดือน นอกจากนี้ยังมีค่าที่นอน หมอน มุ้ง เข้ามาอีก

ได้ยินแล้วก็แปลกใจระคนสงสัยว่าการเข้าไปรับใช้ชาติของชายไทยในที่สุดแล้วต้องเสียค่าเสื้อผ้าค่าที่นอนเองด้วยหรือ สิ่งเหล่านี้ควรเป็นสวัสดิการของรัฐรึเปล่า? เหตุใดรัฐจึงผลักค่าใช้จ่ายเหล่านี้มาให้พลทหารเป็นผู้จ่าย? เพราะจริงๆ แล้วรัฐมีงบประมาณตรงนี้อยู่แล้ว เห็นว่าปีหนึ่งๆ มีงบประมาณทหารมากมายหลายล้านบาท เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีงบเครื่องแบบทหารให้กับพลทหาร หรืออาจจะมีอะไรบางอย่างไม่โปร่งใสอยู่ภายในหรือเปล่าก็มิอาจจะทราบได้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือพลทหารไม่ควรจะต้องมาร่วมเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้

พลทหารหลายนายมาจากครอบครัวยากจน แทนที่จะได้เบี้ยเลี้ยงจากรัฐส่งไปให้ครอบครัวได้ใช้กลับต้องถูกหักค่าเครื่องแบบจากรัฐอีก จึงเป็นคำถามตามมาว่าเหตุใดต้องรีดนาทาเร้นเอาจากพลเรือนที่ถูกเกณฑ์เข้าไปรับใช้ชาติอีก

เราไปเกณฑ์เขามาเป็นทหารแล้วมาเก็บค่าเสื้อผ้าจากเขาอีก ดูแล้วมันขัดแย้งมากๆ  จะว่าทหารไม่มีงบประมาณก็ไม่น่าจะใช่เพราะเห็นมีงบซื้อเรือดำน้ำ มีงบซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ แต่ไม่มีงบซื้อเครื่องแบบทหารก็ดูกระไรอยู่ หนำซ้ำบางแห่งได้ยินว่ามีการหักเบี้ยเลี้ยงเพื่อเอาไปเป็นค่าอาหารด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ยิ่งชวนให้สงสัยว่าแม้แต่ค่าอาหารสำหรับทหารเกณฑ์ก็ยังไม่มี  ต้องหักจากเบี้ยเลี้ยงพลทหารด้วยซ้ำ ไม่ทราบเรื่องนี้เท็จจริงเป็นอย่างไร หากเป็นไปได้อยากฟังคำตอบจากทหารที่ไม่รู้ว่ากระทรวงทบวงใดจะสามารถตอบคำถามนี้ได้บ้าง

ช่วงนี้กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เห็นมีพรรคการเมืองบางพรรคเสนอว่าควรยกเลิกการเกณฑ์ทหารไปเสีย ก็เห็นว่าเป็นเรื่องดี เพราะเมื่อมีการยกเลิกการเกณฑ์ทหารออกไปก็จะกลายเป็นทหารอาชีพขึ้นมาแทน เมื่อเปลี่ยนเป็นอาชีพสถานะของพลทหารก็น่าจะดีขึ้น เพราะเมื่อรับสมัครทหารเป็นอาชีพไปแล้วการหักค่าใช้จ่ายในเรื่องเครื่องแบบก็จะถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้เพราะนี่ไม่ใช่การเกณฑ์ ไม่ใช่การบังคับ แต่เป็นการเปิดพื้นที่ให้พลเรือนเข้าไปเป็นทหารอาชีพมีเงินเดือนให้

เหมือนอย่างเวลาไปสมัครเป็น ร.ป.ภ. ค่าเครื่องแบบ ร.ป.ภ. ก็จะถูกหักออกจากเงินเดือน แต่ทหารเกณฑ์ไม่ใช่ ร.ป.ภ. ทหารเกณฑ์คือการถูกรัฐเกณฑ์เข้าไปรับใช้ ทหารเกณฑ์ไม่ใช่อาชีพ เพราะฉะนั้นพวกเครื่องแบบ เครื่องนอน ต่างๆ เหล่านี้ต้องเป็นสวัสดิการของรัฐ มิใช่ไปหักเอาจากเงินเบี้ยเลี้ยงพลทหาร

อีกประเด็นก็คือเมื่อทหารเปลี่ยนเป็นทหารอาชีพต่อไปการซ้อมการซ่อมหรือการเสียชีวิตโดยตรวจสอบไม่ได้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก หรืออย่างน้อยการซ้อมการซ่อมก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะเมื่อทหารกลายเป็นทหารอาชีพ ทหารก็จะถูกปฏิบัติอย่างสมเกียรติ ครูฝึกหรือทหารที่ทำหน้าที่ฝึกพลทหารจะกลั่นแกล้งพลทหารมิได้ หรือจะใช้อำนาจกดขี่เหมือนอย่างที่เคยกระทำมาแบบนั้นไม่ได้อีกต่อไป เพราะถ้ายังทำเช่นนั้นในที่สุดคนก็จะเลิกเป็นทหารกันไปเอง เพราะเป็นทหารแล้วมีแต่ถูกกดขี่ข่มเหงใครเขาอยากจะไปเป็นกันเล่า

สำหรับบางคนการเป็นทหารกลับกลายเป็นช่วงเวลาที่สูญเสียโอกาสและรายได้ไปไม่น้อย บางคนเรียนจบปริญญามาแทนที่จะได้งานทำทันทีกลับต้องเสียโอกาสในการได้งานดีๆ ด้วยการต้องไปเป็นทหารอย่างน้อยหนึ่งปี หรือบางคนเคยทำงานเงินเดือนหลักหมื่น พอมาเป็นพลทหารรายได้ตกอยู่ที่หลักพัน

และในยุคสมัยที่เราก็ไม่ได้ไปรบราฆ่าฟันกับใครเหมือนกับสมัยกรุงศรีอยุธยา การเกณฑ์ชายหนุ่มไปเกณฑ์ทหารทุกปีเช่นนี้จึงเป็นอะไรที่ไม่เข้ากับยุคสมัยเอาเสียเลย ควรมีการปรับเปลี่ยนเป็นทหารอาชีพและยกระดับทหารให้สมเกียรติเหมือนกับหลายๆ ประเทศที่ได้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารกันไปนานแล้ว

หากท่านเห็นว่าประเด็นเรื่องทหารควรมีการปรับปรุงเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิก วันที่ 24 นี้ท่านควรเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายเปลี่ยนแปลงงบทหารหรือยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหาร หากท่านยังคงยืนยันที่จะเลือกพรรคที่สนับสนุนการเกณฑ์ทหาร ก็เท่ากับว่าท่านก็มีส่วนทำให้ลูกหลานของท่านต้องถูกกดขี่อีกต่อไปตราบชั่วกาลนาน.