Skip to main content
sharethis

ตำรวจอังกฤษแถลงขอโทษกรณีจับกุมสมาชิกกลุ่มสนับสนุนสาธารณรัฐที่ถือป้ายประท้วง #NotMyKing ในพิธีราชาภิเษกของคิงส์ชาร์ลส์ที่ 3 เพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการประท้วงผิดกฎหมาย และยังไปจับกุมกลุ่มอาสาสมัครเฝ้าระวังการข่มขืนของเทศบาลท้องถิ่น จนตำรวจถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่าละเมิดสิทธิในการชุมนุมที่กฎหมายสากลคุ้มครอง

ในช่วงที่มีพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ เกิดเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านระบอบกษัตริย์ในอังกฤษถูกจับกุมและควบคุมตัวเอาไว้เป็นเวลา 16 ชั่วโมง ก่อนที่ส่วนหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่นักวิจารณ์กล่าวหาว่าตำรวจทำการ "ปราบปรามแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จ"

เกรแฮม สมิทธ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มสนับสนุนสาธารณรัฐที่ชื่อกลุ่ม "รีพับลิก" ถูกตำรวจอังกฤษควบคุมตัวไว้เป็นเวลาเกือบ 16 ชั่วโมงก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัว แต่กลุ่มรีพับลิกโดยส่วนใหญ่ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่นานกว่านั้น เรื่องนี้ทำให้สมิทธ์บอกว่า "ไม่มีสิทธิในการประท้วงอย่างสันติหลงเหลืออยู่อีกแล้วในอังกฤษ"

สมิทธ์ระบุในทวิตเตอร์ว่า "มีคนบอกผมไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าระบอบกษัตริย์จะคงอยู่เพื่อปกป้องเสรีภาพของพวกเขา ในตอนนี้เสรีภาพของพวกเรากลับถูกโจมตีโดยอ้างพระนามของพระองค์"

มีกลุ่มผู้ประท้วงพิธีราชาภิเษกหลายสิบรายถูกจับกุมในวันพิธีคือวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประท้วงเหล่านี้มาจากทั้งกลุ่มต่อต้านระบอบกษัตริย์และกลุ่มนักสิ่งแวดล้อม พวกเขาพูดถึงเหตุจับกุมในครั้งนี้ว่าเป็น "ฝันร้ายในโลกทราม"

นอกจากนี้ตำรวจนครบาลของอังกฤษยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการจับกุมตัวกลุ่มอาสาสมัครช่วยดูแลความปลอดภัยให้ผู้หญิงด้วย โดยที่พวกเขาถูกจับกุมในช่วงกลางดึกตอนตี 2 ของคืนก่อนหน้าที่จะมีพิธีการในเขตโซโห ใจกลางกรุงลอนดอน พวกเขาถูกกล่าวหาว่าต้องสงสัยจะร่วมกันก่อเหตุความไม่สงบ

ทางตำรวจแถลงว่าพวกเขาทำการยึดอุปกรณ์เตือนภัยการข่มขืนจากอาสาสมัครเหล่านี้โดยอ้างว่าพวกเขา "ได้รับรายงานว่ากลุ่มและบุคคลดังกล่าวนี้มีความต้องการจะก่อกวนพิธีราชาภิเษกโดยการใช้อุปกรณ์เตือนภัยในการทำให้พิธีหยุดงะชัก" ทางตำรวจอ้างว่ากองทัพของอังกฤษกังวลว่าเครื่องเตือนภัยจะทำให้ม้าของพวกเขาที่นำมาเข้าร่วมพิธีเกิดความตื่นตระหนก

อย่างไรก็ตามทั้ง 3 คนที่ถูกจับกุมระบุว่าพวกเขาเป็นอาสาสมัครในโครงการ "ไนท์สตาร์" ของสภาเทศบาลเวสต์มินสเตอร์ มีการแจกอุปกรณ์เตือนภัยการข่มขืนให้กับอาสาสมัครเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการ "ส่งเสริมความปลอดภัยของสตรี"

เรื่องนี้ทำให้ ไอชา เลสส์ ส.ส.ท้องถิ่นด้านการคุ้มครองชุมชนและสาธารณะของเวสต์มินสเตอร์บอกว่า พวกเขารู้สึกกังวลอย่างมากที่ได้รับรายงานว่าอาสาสมัครไนท์สตาร์ถูกจับกุม ทั้งๆ ที่บริการด้านความปลอดภัยนี้เป็นที่คุ้นเคยและได้รับการยอมรับในเวสต์เอนด์มาเป็นเวลานานแล้ว รวมถึงอาสาสมัครก็ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีทำให้พวกเขาให้ความช่วยเหลือผู้คนที่เสี่ยงถูกกระทำในช่วงเวลากลางดึกได้

อดัม ฮัก ประธานสภาเทศบาลเวสต์มินสเตอร์ก็แถลงว่าพวกเขาต้องการเรียกร้องให้ตำรวจต้องตอบคำถามในเรื่องนี้อย่างเหมาะสม

กลุ่มอาสาสมัครที่ถูกจับกุมในครั้งนี้เป็น ผู้หญิงอายุ 37 ปี, ผู้หญิงอายุ 59 ปี และชายอายุ 47 ปี โดยที่ผู้ชายอายุ 47 ปีรายนี้ยังถูกตำรวจจับกุมเพราะต้องสงสัยว่ามีการส่งต่อของที่ขโมยมาด้วย โดยที่บุคคลทั้งสามรายนี้ได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมาหลังได้รับการประกันตัวและรอการเรียกไต่สวนเพิ่มเติม

ทางตำรวจนครบาลบอกว่าพวกเขาจะอำนวยความสะดวกให้กับการประท้วงต่อต้านระบอบกษัตริย์เว้นแต่ว่าพวกเขาทำการฝ่าฝืนกฎหมายที่มีอยู่หรือกฎหมายใหม่ที่เพิ่งจะออกมาบังคับใช้เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ทำการห้ามไม่ให้ผู้ประท้วงใช้วิธีการ "ล็อกออน" (นำตัวเองติดกับสิ่งต่างๆ เพื่อให้นำตัวออกจากพื้นที่ได้ยาก) และห้ามการ "สร้างความวุ่นวายอย่างหนัก"

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สมาชิกกลุ่มรีพับลิกถูกจับกุมตัวในช่วงเช้าของวันที่ 6 พ.ค. ที่มีงานพิธีราชาภิเษก และมีการยึดป้ายประท้วงที่เขียนว่า "ไม่ใช่กษัตริย์ของเรา" หลายร้อยป้ายไปด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับอนุญาตจากตำรวจให้ทำการประท้วงได้แล้วก็ตาม

เกรแฮม สมิทธ์ กล่าวว่าทางตำรวจไม่ได้ให้เหตุผลอะไรในการจับกุมพวกเขา นอกจากนี้ ผู้ประท้วงอีกรายหนึ่งคือ ฉอร์รี สตรัทตัน บอกว่ามีตำรวจขู่จะยิงเขาถ้าหากพวกเขากีดขวางขบวนพิธีราชาภิเษก สตรัทตันยังพูดถึงสิ่งที่ตำรวจขู่เขาอีกว่า "ตำรวจบอกว่า 'จะประสานเสียงคำขวัญอะไรก็ทำไปเลย แต่ถ้าหากคุณเริ่มพูดถึงเจ้าชายแอนดรูว์กับเรื่องเซ็กส์ของเขา พวกเราก็จะเริ่มจับกุม' "

ในกลุ่มที่ถูกจับกุมนี้มีกลุ่มด้านสิ่งแวดล้อมต่อต้านเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่าง Just Stop Oil รวมอยู่ด้วย ทางกลุ่มเปิดเผยว่ามีผู้สนับสนุนกลุ่ม Just Stop Oil ถูกจับกุมประมาณ 20 ราย หนึ่งในนั้นมีหมอที่ "วางแผนจะถือป้ายประท้วงเขียนว่า 'JUST STOP OIL' อย่างเงียบๆ ขณะที่อยู่ในฝูงชนที่เข้าร่วมพิธีราชาภิเษก"

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล คาเรน ฟินเลย์ ซึ่งเป็นผู้นำปฏิบัติการในครั้งนี้แถลงว่า พวกเขาเข้าใจดีว่าทำไมประชาชนถึงมีความเป็นห่วงในเรื่องการจับกุมที่เกิดขึ้น ฟินเลย์บอกว่าเคยมีการประท้วงที่พวกเขาอนุญาตให้ทำได้ก่อนหน้าที่จะมีพิธีราชาภิเษกโดยที่พวกเขาไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ แต่พวกเขาก็มี "หน้าที่ที่ต้องแทรกแซงเมื่อการประท้วงกลายเป็นอาชญากรรมและอาจจะสร้างความวุ่นวายอย่างหนักได้"

ฟินเลย์กล่าวอ้างอีกว่าเรื่องนี้ "ขึ้นอยู่กับบริบท พิธีราชาภิเษกนั้นเป็นงานพิธีที่มีครั้งเดียวในรอบหนึ่งชั่วคน และเป็นเรื่องสำคัญที่พวกเรานำมาพิจารณาเพื่อประเมินสถานการณ์"

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ตำรวจนครบาลเกรตเตอร์ลอนดอนก็แถลงแสดงความ "เสียใจ" ต่อการจับกุมบุคคลที่พวกเขามองว่าต้องสงสัยในเรื่องการประท้วงแบบสร้างความวุ่นวาย ซึ่งตำรวจระบุว่าการสืบสวนของพวกเขาไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ประท้วงมีเจตนาที่จะก่อกวนงานพระราชพิธี และมีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 6 รายที่ได้รับการยกเลิกข้อหา

ทางด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนอย่างแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลยูเค และฮิวแมนไรท์วอทช์ยูเคก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ปฏิบัติการจับกุมของตำรวจในครั้งนี้ โดยที่แอมเนสตีฯ บอกว่าการประท้วงอย่างสันติในครั้งนี้ "ได้รับการคุ้มครองอย่างชัดเจน" ภายใต้กฎหมายนานาชาติ ส่วนฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่าปฏิบัติการของตำรวจอังกฤษนั้นเป็นสิ่งที่น่าจะเห็นได้ในประเทศอำนาจนิยมอย่างรัสเซียมากกว่าจะเป็นอังกฤษ

"พิธีราชาภิเษกไม่ควรจะเป็นข้ออ้างอีกอย่างหนึ่งในการบ่อนทำลายสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชนในประเทศนี้" ซาชา เดสมุกห์ ผู้บริหารสูงสุดของแอมเนสตีฯ ยูเคกล่าว
 

เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net