Skip to main content
sharethis

UNHCR เรียกร้องให้ใช้ "แนวทางสังคมโดยรวม" จัดการปัญหาผู้ลี้ภัย

เจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือ UNHCR ระบุว่า ปัญหาผู้ลี้ภัยของโลกต้องจัดการด้วยสังคมโดยรวมทั้งหมดและเรียกร้องให้ญี่ปุ่นรับผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้น

ข้อมูลของสหประชาชาติแสดงให้เห็นว่า ในปี2565 ประชาชน 100 ล้านคนหรือกว่าร้อยละ 1 ของประชากรโลกถูกบังคับให้ละทิ้งบ้านเรือนจากความขัดแย้ง ภัยพิบัติและปัจจัยอื่น ๆ

มีความกังวลว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีกท่ามกลางการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และความตึงเครียดของสถานการณ์ในซูดาน

รองข้าหลวงใหญ่ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้สิ่งที่เรียกว่า "แนวทางของสังคมโดยรวม" ซึ่งไม่เพียงแต่รัฐบาลหรือองค์กร เช่น สำนักงาน UNHCR เท่านั้นแต่ยังรวมถึงภาคเอกชนที่จะทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหา

ญี่ปุ่นเป็นประธานการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ชาติหรือ G7 ครั้งล่าสุดและจะเป็นประธานร่วมในการประชุมผู้ลี้ภัยโลกไปจนถึงปลายปีนี้

รองข้าหลวงใหญ่ได้แสดงความคาดหวังว่า ญี่ปุ่นจะแสดงบทบาทผู้นำ ประสานกับประเทศต่าง ๆ ที่รับผู้ลี้ภัยจำนวนมากและให้การสนับสนุนเชิงรุกในเรื่องการศึกษาสำหรับผู้ลี้ภัยและด้านอื่น ๆ

นอกจากนั้นยังได้กล่าวต่ออีกว่า UNHCR จะสนับสนุนญี่ปุ่นให้รับประชาชนที่หนีจากสงครามและการถูกกดขี่มากกว่านี้

ที่มา: NHK World, 1/6/2023

คนทำงานด้านสุขภาพในออสเตรเลียเร่งรัฐเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนแทนแก๊ส

กลุ่มพนักงานบริการด้านสุขภาพในออสเตรเลียได้ออกมาเรียกร้องให้เปลี่ยนผ่านจากแก๊สสู่พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน โดยระบุถึงผลกระทบด้านสุขภาพระบบทางเดินหายใจ พร้อมเรียกร้องรัฐบาลรัฐวิกตอเรีย ยุติการเชื่อมต่อสิ่งปลูกสร้างใหม่สู่ระบบแก๊สตั้งแต่ปี ค.ศ.2025 กลุ่ม Healthy Futures ซึ่งเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ประกอบด้วยพนักงานบริการด้านสุขภาพ อธิบายถึงพลังงานแก๊สว่า เป็นอันตราย ก่อมลพิษ และมีราคาแพง

กลุ่มดังกล่าว ยังต้องการให้การเปลี่ยนผ่านจากพลังงานแก๊สไปสู่พลังงานหมุนเวียนนั้นเกิดเร็วขึ้น ด้วยการเรียกร้องให้รัฐบาลรัฐวิกตอเรียยุติการเชื่อมต่อใหม่เข้าสู่ระบบแก๊สตั้งแต่ปี ค.ศ.2025

ที่มา: SBS, 2/6/2023

ผลสำรวจชี้รายได้ผู้บริหารไต้หวันสูงกว่าพนักงานระดับล่างเกือบ 3 เท่า

กระทรวงแรงงานรายงาน "การสำรวจรายได้ประจำเดือน ก.ค. 2022 แยกตามประเภทงาน"  เงินเดือนเฉลี่ยต่อคนของพนักงานประจำประเภทต่างๆ ในอุตสาหกรรมและภาคบริการ ผู้บริหารและหัวหน้าเท่ากับ 75,000 เหรียญไต้หวัน รองลงมาคือ ผู้ประกอบวิชาชีพ 62,000 เหรียญไต้หวัน แรงงานฝีมือและแรงงานระดับล่าง เท่ากับ 31,000 เหรียญไต้หวัน

สำหรับรายได้เฉลี่ยรายปี ต่อคนตั้งแต่เดือน ก.ค. 2021 - ส.ค. 2022 สูงสุดคือผู้บริหารและหัวหน้าเท่ากับ 1.195 ล้านเหรียญไต้หวัน รองลงมาคือผู้ประกอบวิชาชีพ 982,000 เหรียญไต้หวัน แรงงานฝีมือและแรงงานระดับล่าง 407,000 เหรียญไต้หวัน รายได้แต่ละอาชีพมีความเกี่ยวพันกับระดับความสามารถ

หากเรียงลำดับรายได้เฉลี่ยต่อปีของผู้ประกอบวิชาชีพ สูงสุดคือผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาพยาบาลและงานบริการทางสังคม เท่ากับ 1.012 ล้านเหรียญไต้หวัน การเงินและประกันภัย 1.366 ล้านเหรียญไต้หวัน การขนส่งและคลังสินค้า 1.264 ล้านเหรียญไต้หวัน

ในส่วนของช่างเทคนิคและผู้ช่วยของผู้เชี่ยวชาญ รายได้เฉลี่ยต่อปีสูงสุดคือ การขนส่งและคลังสินค้า เท่ากับ 1.229 ล้านเหรียญไต้หวัน การเงินและการประกันภัย 1.05 ล้านเหรียญไต้หวัน รองลงมาคือกิจการไฟฟ้าและก๊าซพลังงาน

ที่มา: Radio Taiwan International, 2/6/2023

สหภาพแรงงานหยุดงานประท้วงที่อิตาลี ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินของสายการบินทั้งในและต่างประเทศ

ที่อิตาลีกลุ่มสหภาพแรงงานได้หยุดงานประท้วง เพื่อเรียกร้องขอขึ้นค่าแรง เนื่องจากประสบปัญหาเงินเฟ้อ และค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินของสายการบินทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการยกเลิกเที่ยวบินถึง 116 เที่ยว และที่สนามบิน ซึ่งมีการผละงานประท้วงมีเที่ยวบินราว 50 เที่ยวต้องถูกยกเลิก

ที่มา: Prensa Latina, 4/6/2023

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยร่างชุดนโยบายของปีนี้เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ

แผนการนี้มุ่งที่จะได้เห็นผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นอย่างน้อย 1 คนภายในประมาณปี 2025 รวมถึงมุ่งที่จะได้เห็นผู้หญิงอย่างน้อยร้อยละ 30 ได้เป็นผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้ภายในปี 2030

บริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นหมายถึงบริษัทจดทะเบียนอันดับต้น ๆ ของกลุ่มหลักในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว

เพื่อให้แน่ใจเรื่องประสิทธิผลของแผนการนี้ รัฐบาลจะเรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวรวมเรื่องนี้เข้าไว้ในกฎระเบียบภายในของบริษัทเหล่านั้นภายในสิ้นปีนี้

ร่างชุดนโยบายนี้ยังเรียกร้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบที่จะเปิดทางให้พนักงานชายสามารถลาเลี้ยงดูบุตรได้อย่างไม่มีเงื่อนไข โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มผลประโยชน์สำหรับการลาดูแลบุตร เพื่อที่ว่ารายได้สุทธิของครอบครัวจะไม่เปลี่ยนแปลงจนกว่าบุตรจะมีอายุ 2 ปี หากพ่อเลือกที่จะมีชั่วโมงทำงานสั้นลง

ที่มา: NHK World, 5/4/2023

ออสเตรเลียเตรียมออกกฎหมายใหม่ หวังหยุดการแสวงประโยชน์จากแรงงานต่างชาติ

ออสเตรเลียเตรียมออกกฎหมายใหม่ ที่จะถือว่าการบีบบังคับให้บุคคลใดละเมิดเงื่อนไขวีซ่าถือเป็นความผิดทางอาญา และการแบนนายจ้างที่เคยแสวงประโยชน์จากแรงงานต่างชาติไม่ให้สามารถจ้างลูกจ้างที่ถือวีซ่าชั่วคราวอีกต่อไป

กองกำลังชายแดนออสเตรเลีย (Australian Border Force) จะได้รับงบประมาณเพิ่มเติม 50 ล้านดอลลาร์ในการบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้ การเพิ่มบทลงโทษนี้จะเป็นตัวขัดขวางการเอาเปรียบลูกจ้างต่างชาติ ทั้งนี้จากสถิติพบว่าแรงงานต่างชาติที่ออสเตรเลีย 1 ใน 6 คน ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำกำหนด

ที่มา: SBS, 5/6/2023

รองกรรมการผู้จัดการ IMF เตือนตลาดแรงงานอาจหยุดชะงักเพราะ AI

Gita Gopinath รองกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เตือนถึงการหยุดชะงักอย่างมากในตลาดแรงงานที่เกิดจากปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง (Generative AI) และเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายสร้างกฎอย่างรวดเร็วเพื่อควบคุมเทคโนโลยีดังกล่าว นอกจากนี้ เธอยังเรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนเครือข่ายความปลอดภัยทางสังคม สำหรับพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการนำ AI มาใช้ และดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายภาษีเพื่อที่จะไม่ให้ท้ายเหล่าบริษัทที่นำเครื่องจักรมาแทนที่พนักงาน

ที่มา: Financial Times, 5/6/2023

สหรัฐฯ หวังพึ่ง 'แรงงานเด็ก' แก้ปัญหาขาดแคลนคนทำงาน

รายงานจากกลุ่มนโยบายในกรุงวอชิงตันระบุว่า ฝ่ายนิติบัญญัติในอย่างน้อย 10 รัฐได้เสนอกฎหมายแรงงานเด็กที่มีการผ่อนปรนในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยร่างกฎหมายนี้จะช่วยให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีสามารถทำงานเป็นเวลาหลายชั่วโมงในช่วงวันเรียนได้ง่ายขึ้น และทำงานได้หลายประเภทขึ้นด้วย

สถาบันนโยบายเศรษฐกิจในวอชิงตันเผยแพร่รายงานในเดือนมีนาคม ซึ่งระบุว่า ร่างกฎหมายบางฉบับเสนอให้อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีทำงานในสถานที่ให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ธุรกิจก่อสร้างได้

ฝ่ายนิติบัญญัติที่สนับสนุนร่างกฎหมายใหม่กล่าวว่า เด็ก ๆ อาจช่วยเติมเต็มปัญหาการขาดแคลนแรงงานซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเกิดโรคระบาดใหญ่ นอกจากนี้การทำงานยังให้ประสบการณ์การทำงานที่มีค่าแก่วัยรุ่นอีกด้วย ในขณะที่บางคนบอกว่ารัฐบาลไม่ควรห้ามเด็กทำงานหากได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองแล้ว

สภานิติบัญญัติของรัฐอาร์คันซอผ่านร่างกฎหมายในปีนี้ที่ยกเลิกข้อกำหนดให้เด็กอายุ 14 และ 15 ปีต้องมีใบอนุญาตทำงาน โดยใบอนุญาตดังกล่าวกำหนดให้เด็กต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง มีหลักฐานยืนยันอายุ และมีลายเซ็นของนายจ้าง

หากไม่มีใบอนุญาตทำงาน ก็อาจเป็นการยากสำหรับบริษัทต่าง ๆ ที่จะตัดสินใจว่าจะจ้างเด็กดีหรือไม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฝ่ายนิติบัญญัติของรัฐอาร์คันซอก็ได้ผ่านร่างกฎหมายที่เพิ่มค่าปรับสำหรับการละเมิดกฎหมายแรงงานเด็กแยกต่างหากด้วย

ภายใต้กฎหมายของรัฐบาลกลาง ชั่วโมงการทำงานของเด็กมีจำกัด และไม่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในสภาวะที่เป็นอันตราย

ร่างกฎหมายฉบับหนึ่งในรัฐมินเนโซตาอนุญาตให้เด็กอายุ 16 และ 17 ปีทำงานได้ทั้งในและรอบ ๆ สถานก่อสร้าง ส่วนร่างกฎหมายในรัฐโอไฮโอที่ผ่านมติวุฒิสภาของรัฐอนุญาตให้เด็กทำงานในวันที่เรียนได้จนถึงสามทุ่ม ภายใต้กฎหมายฉบับปัจจุบัน เด็กสามารถทำงานได้จนถึงหนึ่งทุ่มในวันที่ไปโรงเรียน

แอลลิสัน แพกซ์สัน ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายเด็กและการศึกษาของ Children’s Defense Fund Ohio ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ โดยสนับสนุนการศึกษาและต่อสู้กับการถูกทารุณกรรมและความยากจน บอกกับวีโอเอว่า ร่างกฎหมายในรัฐโอไฮโอและรัฐอื่น ๆ เป็นแนวทางสำหรับบรรดาธุรกิจต่าง ๆ ในการรับมือกับสิ่งที่เธอเรียกว่า “ช่องว่างด้านแรงงาน” โดยการจ้างเด็กด้วยค่าแรงที่ต่ำกว่า และว่า เด็ก ๆ ในสหรัฐฯ อาจทำงานโดยได้รับค่าแรงน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำสำหรับผู้ใหญ่ของรัฐบาลกลาง

ทิม แชฟเฟอร์ วุฒิสมาชิกรัฐโอไฮโอ กล่าวภายหลังการผ่านร่างกฎหมายในวุฒิสภารัฐโอไฮโอว่า "ปัจจุบัน 13 รัฐอนุญาตให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีทำงานจนถึงสามทุ่มได้ตลอดทั้งปี โดยได้รับค่าจ้างที่ดีและได้เรียนรู้ทักษะการจ้างงานที่มีคุณค่าอีกด้วย”

แต่แพกซ์สันแย้งว่า การทำงานมากขึ้นจะทำให้เวลาเรียนลดลง คุณประโยชน์ที่เยาวชนจะได้รับจากประสบการณ์ในที่ทำงานนั้นไม่ควรมาจากการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งที่ปกป้องเด็กในสถานที่ทำงาน เพราะสิ่งนี้จะกลับมาในรูปของค่าใช้จ่ายในการศึกษาและยังเป็นอนาคตของพวกเขาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Research on Adolescence พบว่าวัยรุ่นที่ทำงานชั่วโมงยาวนานหลังเลิกเรียนมีความเสี่ยงที่จะต้องหยุดเรียนมัธยมกลางคัน เพราะการทำงานที่มากเกินไปอาจทำให้ความสนใจในการโรงเรียนลดลง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสหรัฐฯ จะมีกฎหมายแรงงานเพื่อคุ้มครองเด็ก ตัวอย่างเช่น กฎหมายของรัฐบาลกลางระบุว่าเด็กอายุ 14 และ 15 ปีไม่สามารถทำงานหลังเลิกเรียนเกินวันละสามชั่วโมงได้ แต่ในหลาย ๆ ส่วนของโลก แรงงานเด็กยังคงพบเห็นได้ทั่วไป

การศึกษาของ OECD ในปี 2019 ระบุว่าเด็ก 152 ล้านคนตกเป็นแรงงานเด็ก เนื่องจากในหลาย ๆ ประเทศ แรงงานเด็กมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ

ที่มา: VOA, 8/6/2023

แรงงานกัมพูชาส่งเงินกลับประเทศ 2.7 พันล้านดอลลาร์ฯ เมื่อปี 2022

รัฐบาลกัมพูชา เปิดเผยว่าชาวกัมพูชาราว 1.3 ล้านคนที่ไปทำงานในต่างประเทศ ได้ส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวจำนวน 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ชาวกัมพูชาประมาณ 1.2 ล้านคนทำงานใช้แรงงานอยู่ในประเทศไทย ส่วนในเกาหลีใต้มีจำนวน 49,000 คน ในมาเลเซีย 22,000 คน ในญี่ปุ่น 19,000 คน และมีอีกบางส่วนในสิงคโปร์ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน และซาอุดีอาระเบีย โดยแรงงานกัมพูชาในไทยและมาเลเซียได้รับค่าจ้างขั้นต่ำเดือนละ 400 ดอลลาร์ฯ และ 300 ดอลลาร์ฯ ตามลำดับ ส่วนแรงงานในเกาหลีใต้และญี่ปุ่นมีรายได้ 1,500 ดอลลาร์ฯ และ 1,400 ดอลลาร์ฯ ต่อเดือนตามลำดับ

ที่มา: china.org.cn, 8/6/2023

แก้วิกฤตขาดแคลนแรงงาน ไต้หวันผ่อนปรน 4 กิจการ อนุญาตให้นำเข้าแรงงานต่างชาติเพิ่มอีก 28,000 คน

แม้ว่าการส่งออกจะลดติดต่อกันหลายเดือน ทำให้บางอุตสาหกรรม อาทิ อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดัคเตอร์ประสบภาวะซบเซา แต่อีกหลายกิจการและตำแหน่งงานยังคงขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก กระทรวงแรงงานจึงผ่อนปรนคุณสมบัติการว่าจ้างแรงงานต่างชาติในภาคการผลิต ก่อสร้าง เกษตรและผู้อนุบาลในองค์กร คาดจะเปิดให้นำเข้าแรงงานต่างชาติเพิ่มอีก 28,000 คน ในจำนวนนี้งานก่อสร้างเอกชน กิจการตัดแปรรูปไม้และการปลูกป่า ได้รับอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติเป็นครั้งแรก

นายไล่ เจียเหริน รองอธิบดีกรมพัฒนากำลังแรงงาน กระทรวงแรงงานกล่าวว่า ปัจจุบัน งานก่อสร้างที่เปิดให้นำเข้าแรงงานต่างชาติได้จำกัดเฉพาะโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคหรือการลงทุนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ภาคเอกชน มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านเหรียญขึ้นไป เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ไม่สามารถจะว่าจ้างแรงงานต่างชาติที่มีทักษะฝีมือได้อีกต่อไป ทำให้ไม่สามารถบ่มเพาะบุคลากรของผู้ประกอบการเองได้ ประกอบกับอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยฉุดให้อุตสาหกรรมภาคอื่น ๆ เจริญก้าวหน้าไปพร้อม ๆ กันด้วย จึงผ่อนปรนให้ผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างทั่วไปสามารถนำเข้าแรงงานต่างชาติของตนได้ หากผู้ประกอบการนั้น ๆ ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รับเหมางานก่อสร้างมูลค่าสะสมมากกว่า 10 ล้านเหรียญไต้หวันขึ้นไป สามารถยื่นขอนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ในสัดส่วนโควตา 30% คาดจะช่วยให้บริษัทก่อสร้าง 7,222 แห่งได้รับประโยชน์ โดยในระยะแรก อนุญาตให้นำเข้าแรงงานต่างชาติได้ 8,000 คนก่อน จากนั้นค่อย ๆ ขยายเพิ่มเป็น 15,000 คน

นอกจากการก่อสร้างแล้ว ยังอนุญาตให้เกษตรรายย่อยที่มีแรงงานท้องถิ่นทำงานต่ำกว่า 10 คน สามารถนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ในอัตราส่วนแรงงานท้องถิ่น 1 คน ยื่นขอนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ 1 คน หรืออัตราส่วน 1 ต่อ 1 โดยขยายเกษตรกรที่ทำสวนผัก ปลูกผลไม้ เพาะกล้า สวนดอกไม้ ปลูกธัญพืช กาแฟและใบชา สามารถยื่นขอนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ รวมทั้งเปิดให้กิจการตัด แปรรูปไม้และปลูกป่า ได้รับอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติเป็นครั้งแรกด้วย

นอกจากนี้ ยังผ่อนปรนให้ศูนย์ดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุระยะยาวและศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ป่วย สามารถนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ตามจำนวนเตียงผู้ป่วยที่จดทะเบียน ในอัตราส่วนผู้อนุบาลท้องถิ่น 1 คนต่อผู้อนุบาลต่างชาติ 1 คน คาดจะช่วยให้นำเข้าผู้อนุบาลในองค์กรเพิ่มอีก 14,000 คน รวมทั้งผ่อนปรนให้ภาคการผลิตนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ รวมทั้งหมด 28,000 คน โดยเปิดให้ผู้ประกอบการที่เข้าข่ายคุณสมบัติ ยื่นขอนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ ในเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป

ที่มา: Radio Taiwan International, 8/6/2023

ฮ่องกงมีแผนผ่อนปรนกฎการเข้าเมืองสำหรับแรงงานต่างชาติเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

ทางการฮ่องกงเผยว่าฮ่องกงจะผ่อนปรนกฎการเข้าเมืองสำหรับแรงงานต่างชาติเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานบนเกาะฮ่องกง ทั้งนี้ฮ่องกงกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคบริการและอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในขณะที่จำนวนธุรกิจเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่มีการยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ด้านนักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่าปัญหามาจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงแรงงานท้องถิ่นที่ลดลง และนโยบายการย้ายถิ่นฐานของฮ่องกงเองด้วย

ที่มา: Bloomberg, 13/6/2023

ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นหารือเรื่องเงินเฟ้อและการขึ้นค่าจ้าง

บรรดาผู้กำหนดนโยบายของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นหรือ BOJ ได้เริ่มการถกหารือเรื่องผลกระทบจากการผ่อนคลายทางการเงินอย่างมาก และราคาค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นในการประชุมที่มีเป็นเวลา 2 วันซึ่งเริ่มในวันพฤหัสบดีที่ 15 มิถุนายน

BOJ ได้ควบคุมอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นและระยะยาว เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 2

นายอูเอดะ คาซูโอะ ผู้ว่าการ BOJ ชี้ว่าธนาคารจะยังคงยึดนโยบายปัจจุบัน โดยอ้างว่าต้องใช้เวลากว่าจะบรรลุเป้าหมายเสถียรภาพทางราคา

แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า เงินเฟ้อสูงกว่าการคาดการณ์เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภคที่ไม่รวมสินค้าที่เน่าเสียเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเดือนเมษายน

ดัชนีดังกล่าวเพิ่มขึ้นในจังหวะที่เร็วที่สุดในรอบ 3 เดือนถึงแม้ราคาสินค้านำเข้าลดลง

บรรดาบริษัทได้ขึ้นค่าจ้างเพื่อแก้ไขเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงาน คาดว่าบรรดาผู้กำหนดนโยบายจะหารือเรื่องการขึ้นค่าจ้างว่าจะช่วยส่งผลดีต่อวงจรเศรษฐกิจได้อย่างไร

ที่มา: NHK World, 15/6/2023

สถิติ 9 เดือนปี 2022 ชาวต่างชาติในไต้หวันก่อคดีอาชญากรรมถูกจับ 3,707 คน คดีเมาแล้วขับมากสุด 1,197 คน ยาเสพติด 583 คน เป็นแรงงานเวียดนาม 2,158 คน ตามด้วยแรงงานไทย 492 คน

สำนักงานตำรวจ กระทรวงมหาดไทยไต้หวันเปิดเผยสถิติชาวต่างชาติฝ่าฝืนกฎหมายและก่อคดีอาชญากรรม ช่วงระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2022 พบว่า มีชาวต่างชาติก่อคดีอาชญากรรม 3,707 คน เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2021 เพิ่มขึ้น 455 คน หรือเพิ่มขึ้นในอัตราส่วน 13.99% จำนวนนี้ร้อยละ 94.77% หรือ 3,513 คนเป็นแรงงานต่างชาติจาก 4 ประเทศ ในจำนวนนี้ คดีก่ออันตรายต่อสาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคดีเมาแล้วขับ 1,197 คน หรือ 32.29% ตามด้วยคดียาเสพติด 583 คน ครองสัดส่วน 15.73% คดีฉ้อโกง 377 คน ครองสัดส่วน 10.17% และคดีลักทรัพย์ 371 คน ครองสัดส่วน 10.01%

สำนักงานตำรวจ กระทรวงมหาดไทยไต้หวันแถลงว่า 9 เดือนแรกของปี 2022 ชาวต่างชาติในไต้หวันก่อคดีอาชญากรรม และถูกจับดำเนินคดี มีทั้งสิ้น 3,707 คน ในจำนวนนี้ 3,513 คนหรือ 94.77% เป็นแรงงานต่างชาติ หากจำแนกตามสัญชาติ แรงงานเวียดนามก่อคดีอาชญากรรมมากที่สุด 2,158 คน ครองสัดส่วน 58.21% ตามด้วยแรงงานไทย 492 คนครองสัดส่วน 13.27% แรงงานอินโดนีเซีย 422 คน ครองอัตราส่วน 11.38% ส่วนแรงงานฟิลิปปินส์ก่อคดีน้อยสุด 262 คนหรือ 7.07%

ที่มา: Radio Taiwan International, 16/6/2023

ร้านอาหารสหรัฐฯ หันพึ่ง AI รับมือปัญหาแรงงานขาดแคลน

ร้านอาหารหลายแบรนด์ในสหรัฐอเมริกา เช่น  Pizza Hut, Chipotle, Carl’s Jr และอื่นๆ ต่างเริ่มทดลองนำ AI มาช่วยลดขั้นตอนในกระบวนการทำงาน ทั้งการทำอาหารในครัว การรับออร์เดอร์ลูกค้าทางไดร์ฟทรูและทางโทรศัพท์ เพื่อลดความซับซ้อนในการกระบวนการ และช่วยให้พนักงานมีเวลาบริการลูกค้าได้มากและดีขึ้น ความเคลื่อนไหวนี้สอดรับกับการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในสหรัฐฯ

ที่มา: CNBC, 17/6/2023

PwC เผยผลสำรวจแรงงานทั่วโลก พบ 42% หวังขึ้นค่าจ้าง รับมือค่าครองชีพสูง

ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส (PwC) บริษัทตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ของโลกเปิดเผยผลสำรวจล่าสุดพบว่า พนักงาน 25% คาดว่าจะเปลี่ยนงานในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 19% จากปีที่แล้ว เนื่องจากรายได้ไม่เพียงพอกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

“การสำรวจความหวังและความกลัวในแรงงานทั่วโลกประจำปี 2566” (2023 Hopes and Fears Global Workforce Survey) ของ PwC ซึ่งสำรวจพนักงาน 54,000 คนใน 46 ประเทศทั่วโลกพบว่า แม้ว่ากระแสการลาออกจากงานครั้งใหญ่ยังคงดำเนินอยู่ แต่พนักงานประมาณ 42% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 35% เมื่อปีที่แล้วนั้นกล่าวว่า พวกเขากำลังวางแผนเรียกร้องให้มีการขึ้นค่าแรงเพื่อรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น

พนักงานประมาณ 46% กล่าวว่า ครอบครัวของพวกเขาประสบความเดือดร้อนในการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในทุก ๆ เดือน หรือไม่มีเงินมากเพียงพอที่จะชำระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ได้

ส่วนพนักงาน 38% ระบุว่า พวกเขามีเงินเหลือใช้จนถึงสิ้นเดือน ซึ่งน้อยกว่าระดับ 47% ของปีที่แล้ว นอกจากนี้ พนักงานราว 20% กล่าวว่าทำงานหลายงาน ซึ่ง 69% ของพนักงานกลุ่มนี้กล่าวว่า ต้องการทำงานมากขึ้นเพื่อหารายได้เพิ่ม

“ด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง เราพบว่าพนักงานทั่วโลกต้องการค่าแรงมากขึ้น และต้องการเป็นที่ยอมรับหรือได้รับการมองเห็นคุณค่าในที่ทำงานของพวกเขา” นายภูชาน เสธี ผู้นำร่วมระดับโลกฝ่ายบุคคลและองค์กรของ PwC กล่าว

ผลสำรวจยังพบอีกว่า “วัตถุประสงค์ วัฒนธรรมองค์กร และความหลากหลาย” ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่สร้างความกังวลให้กับพนักงาน

พนักงานที่มีปัญหาด้านค่าใช้จ่ายจะรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้น้อยลง รวมถึงการลงทุนในการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และการปรับตัวให้เข้ากับกระแสการใช้งานปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ที่กำลังเพิ่มมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน กว่า 33% ของกลุ่มพนักงานที่มีสถานะการเงินดีขึ้นระบุว่า เอไอจะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน และ 25% กล่าวว่า เอไอจะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงาน

สำหรับพนักงานที่อายุยังน้อย รวมไปถึงกลุ่มเจนซี (Gen Z) และกลุ่มเจนวาย (Gen Y) หรือมิลเลนเนียล (Millennials) ซึ่งเกิดหลังปี 2524 นั้น ผลสำรวจพบว่า เอไอจะสร้างผลดีให้กับอาชีพการงานของพวกเขาในช่วง 5 ปีข้างหน้า

ที่มา: Infoquest, 20/6/2023

แอมะซอน-ฮิลตัน จับมือบริษัทข้ามชาติจ้างงานผู้ลี้ภัยชาวยูเครน

บริษัทข้ามชาติหลายแห่ง รวมทั้ง แอมะซอน (Amazon) แมร์ริออตต์ (Marriott) และ ฮิลตัน (Hilton) ประกาศว่าจะจ้างผู้ลี้ภัยเพิ่มอีกมากกว่า 13,000 คนในยุโรปตลอด 3 ปีข้างหน้า รวมทั้งสตรีชาวยูเครนที่ลี้ภัยจากสงคราม

คำประกาศนี้นี้มีขึ้นก่อนวันผู้ลี้ภัยโลก (World Refugee Day) จะมาถึงในวันอังคารนี้ โดยมากกว่า 40 บริษัทรับปากว่า จะจ้าง ฝึกฝน หรือเชื่อมต่อเครือข่ายการทำงานให้แก่ผู้ลี้ภัย 250,000 คน โดยในจำนวนนี้ 13,680 คนจะถูกจ้างงานโดยตรงโดยบริษัทเหล่านั้น

เคลลี คลีเมนต์ส รองข้าหลวงใหญ่ด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มีประชากรโลกที่ต้องจากแหล่งที่อยู่ของพวกเขาราว 110 ล้านคน ในจำนวนนี้คาดว่าเป็นเด็กชาวยูเครนราว 12 ล้านคน ซึ่งครึ่งหนึ่งลี้ภัยอยู่ในยุโรป

โครงการจ้างงานผู้ลี้ภัยรอบใหม่นี้จัดขึ้นโดยกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไร Tent Partnership for Refugees ที่เชื่อมต่อภาคธุรกิจกับผู้ลี้ภัย โดยมีบริษัทแอมะซอนเป็นโต้โผใหญ่ โดยทางบริษัทสัญญาว่า จะจ้างผู้ลี้ภัยในยุโรปอย่างน้อย 5,000 คนในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยตำแหน่งงานส่วนใหญ่จะอยู่ที่ฝ่ายโกดังเก็บสินค้า และฝ่ายขนส่งสินค้า

ทางด้านเครือโรงแรมแมร์ริออตต์ และ ฮิลตัน รับปากว่าจะจ้าง 1,500 คน ขณะที่เครือร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ (Starbucks) และบริษัทไอเอสเอส (ISS) จะจ้างอีก 1,000 คน

เมื่อต้นปีนี้ แอมะซอนประกาศตัดพนักงาน 27,000 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการลดจำนวนพนักงานหลังจากบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ จ้างงานเพิ่มขึ้นมากในช่วงการระบาดของโควิด-19 โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นพนักงานกินเงินเดือนเต็มเวลาและพนักงานออฟฟิศ

หลายบริษัทเชื่อว่า บรรดาผู้ลี้ภัยจะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานหลังการระบาดใหญ่ได้เช่นกัน โดยขณะนี้ อัตราการว่างงานในยุโรปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี

ที่มา: VOA, 20/6/2023

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net