มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเผยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดสืบพยานคดีอุ้มฆ่า 'บิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ' 24-27 ก.ค 66 นี้

23 ก.ค. 2566 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเปิดเผยว่าศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดสืบพยานคดีอุ้มฆ่าบิลลี่ หรือ นายพอละจี รักจงเจริญ  4 วันติด ตั้งแต่วันที่ 24-27 กรกฎาคม 2566 นี้ เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งก่อนหน้านี้คดีนี้นัดสืบพยานไปแล้ว 3 นัด พยาน 9 ปาก ในคดีหมายเลขดำที่ อท.166/2565 ซึ่งเป็นคดีที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ตกเป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่น ๆ 

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ ‘บิลลี่’ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง “บางกลอย-ใจแผ่นดิน”ได้ถูกจับกุมและถูกเอาตัวไปโดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในขณะนั้น กับพวก หลังจากนั้นไม่มีใครทราบชะตากรรมของบิลลี่อีกเลย จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และอัยการ ได้ร่วมกันติดตามสอบสวนคดีดังกล่าวจนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ ที่จับกุมบิลลี่ไปนั้น ได้ร่วมกันกระทำผิดต่อบิลลี่ ในข้อหาร่วมกันฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่น ๆ 

โดยคดีนี้ศาลนัดสืบพยานมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

1.วันที่ 24 ก.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลนัดไต่สวนพยานจำนวน 3 ปาก ได้แก่ ประชาชนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 2 ปาก และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ

2.วันที่ 25 ก.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลนัดไต่สวนพยานจำนวน 3 ปาก ได้แก่ ชาวบ้านบางกลอย และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จำนวน 2 ปาก

3. วันที่ 26 ก.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลนัดไต่สวนพยานจำนวน 4 ปาก ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 ปาก ประชาชนผู้อยู่ในเหตุการณ์ และ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 

4. วันที่ 27 ก.ค. 2566 เวลา 09.00 น. ศาลนัดไต่สวนพยานจำนวน 4 ปาก ได้แก่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นิติวิทยาศาสตร์จำนวน 2 ปาก และ ดีเอสไอ

หลังจากนั้นศาลอาญาทุจริตฯ นัดสืบคดีในครั้งต่อไปจะเป็นการนัดสืบพยาจำเลยทั้ง 4 ปาก และพยานคนอื่นๆ วันที่ 28, 30 และ 31 ส.ค. 2566  นี้อีกด้วย 

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเชิญชวนสื่อมวลชนและผู้สนใจร่วมติดตามและเข้าร่วมสังเกตการณ์การสืบพยานนัดติดกันถึง 4 วัน ตามวันและเวลาข้างต้น เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการยุติธรรมจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ครอบครัวของนายบิลลี่ และชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย-ใจแผ่นดินอย่างเต็มที่และเป็นธรรม ในการนำเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ทั้งยุติวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดได้อย่างเป็นจริง