บทวิเคราะห์ชี้ฝ่ายต่อต้านสามารถเข้ายึดฐานทัพทางยุทธศาสตร์ของกองทัพเผด็จการพม่าได้ในระยะเวลาอันสั้น แสดงให้เห็นว่ากองทัพพม่ากำลัง "อยู่ในภาวะโกลาหล" และกำลัง "เสื่อมถอยลง" ถึงขั้นมีการใช้นักโทษและหน่วยต่างๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ไปรบในแนวหน้า

บทวิเคราะห์จากสื่ออิระวดีระบุว่า เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมากองทัพเผด็จการพม่าล้มเหลวในการป้องกันไม่ให้กองกำลังฝ่ายต่อต้านบุกยึดฐานทัพทางยุทธศาสตร์ของพวกเขาในด่านหน้าทางตอนเหนือของรัฐฉานที่ติดกับภูมิภาคมัณฑะเลย์ เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ากองทัพพม่ากำลังอยู่ในสภาวะโกลาหลและเริ่มอ่อนแอลง ผู้ที่พูดไว้เช่นนี้มีทั้งอดีตผู้นำทัพฝ่ายเผด็จการทหารและกลุ่มกองกำลังฝ่ายต่อต้าน

ร้อยเอก Htet Myat ผู้ที่แปรพักตร์จากกองทัพเผด็จการพม่าแล้วมาเข้าร่วมขบวนการอารยะขัดขืนของพม่าตั้งแต่เมื่อเดือน มิ.ย. 2564 กล่าวว่า ผู้บัญชาการฐานทัพด่านหน้ากองทัพพม่าในอำเภอ Nawnghkio หมู่บ้าน Thanbo ไม่มีประสบการการสู้รบมาก่อนและทหารจำนวนมากที่หน้าด่านนั้นก็ไม่มีประสบการณ์เช่นกัน ทหารส่วนใหญ่จากกองกำลังทั้งหมดราว 200 นายที่หน้าด่านนั้นมาจากหน่วยสนับสนุนการสู้รบและอาจจะยังคงเป็นทหารฝึกหัดอยู่

กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) กองกำลังพิทักษ์ประชาชนมัณฑะเลย์ (PDF) ได้ยึดฐานทัพด่านหน้าซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ตั้งอยู่ระหว่างภูมิภาคมัณฑะเลย์และตอนเหนือของรัฐฉาน พวกเขาใช้เวลาตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการโจมตีไม่เกิน 24 ชั่วโมงก็สามารถยึดฐานทัพได้

ฐานทัพดังกล่าวอยู่ห่างจากโรงเรียนนายร้อยในอำเภอ Pyin Oo Lwin ของภูมิภาคมัณฑะเลย์ประมาณ 1 ชั่วโมงถ้าหากเดินทางด้วยรถยนต์

ในหมู่เชลยศึกที่ฝ่ายต่อต้านจับตัวได้จากฐานทัพด่านหน้าดังกล่าวคือผู้บัญชาการฐาน พันโท Thet Aung ที่เป็นครูสอนงานช่างที่โรงเรียนนายร้อยเทคโนโลยี

นอกจากนี้กองทัพฝ่ายต่อต้านนังระบุอีกว่าพวกเขาพบชุดฟอร์มทหารและเหรียญตราทหารหลายรูปแบบบนตัวของผู้ใต้บังคับบัญชาของพันโท Thet Aung ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเผด็จการทหารได้ส่งทหารที่ทำงานในหน่วยต่างๆ เช่น หน่วยแพทย์, หน่วยการสื่อสาร และหน่วยวิศวกรรมกับไฟฟ้า รวมถึงหน่วยดับเพลิง และหน่วยโรงงานอาวุธ มายังแนวหน้าของการรบ

กองกำลังฝ่ายต่อต้านเปิดเผยว่า นอกจากฐานทัพดังกล่าวแล้วยังมีการส่งกองกำลังหน่วยเหล่านี้ไปยังที่ต่างๆ ทั้งประเทศพม่า ไม่ว่าจะเป็นฐานบัญชาการในภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงใต้, ภาคตะวันตก และในย่างกุ้ง รวมถึงที่โรงเรียนนายร้อยและโรงเรียนนายร้อยเทคโนฯ ด้วย

ร้อยเอก Htet Myat กล่าวว่า มันเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมากในการที่ผู้คนเหล่านี้ถูกส่งตัวมายังค่ายด่านหน้าที่นำโดยอาจารย์ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ผ่านศึกสงครามมาก่อน ในความเป็นจริงคือ เรื่องนี้ทำให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นว่ากองทัพพม่าอ่อนแอลงมากเพียงใด

Htet Myat บอกว่ามีการบังคับส่งกองกำลังหน่วยเหล่านี้ไปที่แนวหน้าเพราะ "ความจำเป็น"

โฆษกของ PDF มัณฑะเลย์ชื่อ ออสมอนด์ กล่าวว่า ก่อนที่จะถูกส่งไปที่ด่านหน้าในหมู่บ้าน Thanbo ตลอดการรับราชการทหารที่ผ่านมาของพันโท Thet Aung นั้นเขาไม่เคยถูกส่งตัวมาที่แนวหน้ามาก่อนเลย

ออสมอนด์กล่าวว่า "ทั้งผู้บัญชาการ (Thet Aung) และกองกำลังของเขาต่างก็ไม่มีประสบการณ์ในการสู้รบ พวกเขาถูกบังคับให้ไปที่แนวหน้าเพราะว่าต้องการตัวพวกเขาที่นั่น เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ากองทัพเผด็จการพม่าอยู่ในความโกลาหลและอ่อนแอลงมากเพียงใด"

ออสมอนด์บอกอีกว่าเหล่าผู้ป้องกันฐานทัพด่านหน้าต่างก็อ่อนแอทั้งกายและใจถึงขนาดว่าพวกเขาดูเหมือนจะอยากยอมแพ้มากกว่าที่จะสู้

นักรบฝ่ายกองกำลังต่อต้านเล่าว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ในตอนที่พวกเขาลอบโจมตีรถขนทหาร 3 คันที่กำลังขนกำลังเสริมจากอำเภอ Kyaukme นั้น พอพวกเขาเริ่มโจมตีพวกกองกำลังเสริมก็หันหลังหนีอย่างรวดเร็ว

"กองทัพพม่ากำลังเสื่อมถอยลง" ออสมอนด์กล่าว

นักวิเคราะห์กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเพราะวิกฤตด้านการเกณฑ์กำลังพล มีการหนีทหารเป็นจำนวนมาก และมีการสูญเสียอย่างหนักในการสู้รบทั่วประเทศ เพื่อที่จะรับมือกับปัญหาการขาดแคลนกำลังพลนี้ กองทัพเผด็จการพม่าได้ปล่อยตัวนักโทษออกมาเพื่อส่งไปเป็นทหารที่แนวหน้า เมื่อเดือน ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมาแค่เดือนเดียวมีการปล่อยตัวทักโทษเพื่อให้มาเป็นทหารมากกว่า 600 นาย

เรียบเรียงจาก
‘Myanmar Military in Chaos,’ Swift Capture of Strategic Outpost Shows, Irrawaddy, 05-01-2024