ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง 'ทุนมินลัต' - ลูกเขย สว.อุปกิต คดียาเสพติด ศาลระบุ พยานหลักฐานของอัยการโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง และจำเลยสามารถหาพยานหักล้างคำฟ้องของโจทก์ได้ทั้งหมด จึงพิจารณายกฟ้อง

30 ม.ค. 2567 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อ่านคำพิพากษาคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ทุนมินลัต” นักธุรกิจชาวพม่า เป็นจำเลยที่ 1, ดีน ยัง จุลธุระ ชายสัญชาติไทย-อเมริกัน ลูกเขยของอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำเลยที่ 2, น้ำหอม จำเลยที่ 3, ปิยะดา จำเลยที่ 4 และบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป (พีแอนด์อี) จำกัด นิติบุคคลจดทะเบียนในไทย โดยทุนมินลัตและน้ำหอมในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจที่ 5 ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันสนับสนุนกันกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีลักษณะเป็นความผิดร้ายแรง องค์กรอาชญากรรม

สำนักข่าวเดอะสแตนดาร์ดรายงาน อัยการระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2562 ถึงวันที่ 10 พ.ค. 2562 จำเลยทั้ง 5 กับพวกที่ยังหลบหนี และจำเลยบางส่วนศาลจังหวัดธัญบุรีพิพากษาไปแล้ว ได้บังอาจร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยตกลงวางแผนและแบ่งหน้าที่กันจัดหายาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยจำเลยกับพวกทำหน้าที่ดูแลรับฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ซื้อขายยาเสพติดเข้าบัญชีของบริษัทฯ จำเลยที่ 5 โดยอ้างว่าเพื่อไปชำระค่าไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แม่สาย จ.เชียงราย ลักษณะปกปิดอำพรางซึ่งการได้มาของเงินจำนวนดังกล่าวโดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด บริษัทฯ จำเลยที่ 5 มีหน้าที่นำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดเปลี่ยนสภาพเป็นสินค้าประเภทกระแสไฟฟ้า ส่งออกไปพม่า อัยการขอให้ลงโทษจำเลยกับพวกตามความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ

ทั้งนี้จำเลยกับพวกให้การปฏิเสธและต่อสู้คดี ต่อมาศาลเบิกตัวจำเลยทั้งหมดจากเรือนจำมาฟังคำพิพากษา โดยศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษากว่า 3 ชั่วโมง ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องทุกข้อหา และพยานหลักฐานฝ่ายจำเลยหักล้างได้ทั้งหมด

พิพากษายกฟ้อง