Skip to main content
sharethis

 

 

25 ธ.ค.55 เวลาประมาณ 10.20 น. ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ10 เป็นโจทก์ฟ้องนายคธา (สงวนนามสกุล) วัย 39 ปี อดีตโบรกเกอร์บริษัทใหญ่ ตามความผิด มาตรา 14 (2) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่าจำเลยมีความผิดจริงตามฟ้อง ลงโทษจำคุกกรรมละ 3 ปี 2 กรรมรวม 6 ปี จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวนจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 4 ปี 

ทั้งนี้ ความผิดดังกล่าวสืบเนื่องจากการโพสต์ข้อความในเว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน เมื่อปี 2552 เรื่องข่าวลือที่ทำให้หุ้นตกอย่างหนัก และการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเมษายน 2552 ซึ่งเป็นข้อความที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา อย่างละ 1 ข้อความ จำเลยถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.52 แต่ได้รับการประกันตัว ในช่วงเวลาเดียวกันตำรวจยังได้จับกุมตัวผู้ต้องหาอีกหลายคน รวมถึงผู้ที่แปลข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศซึ่งวิเคราะห์เรื่องหุ้นตกแล้วนำไปโพสต์ในเว็บบอร์ดด้วยแต่แยกดำเนินคดี

(อ่านรายละเอียดคดีและการสืบพยานได้ที่ http://freedom.ilaw.or.th/th/case/83#detail )

ผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษาระบุว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยในคดีนี้มีว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ โดยโจทก์มีนายอารีย์ จิวรรักษ์ และนายณัฐ พยงค์ศรี จากระทรวงไอซีทีเบิกความสอดคล้องกันว่ากลางเดือนตุลาคม 2552 ได้รับการแจ้งว่ามีการโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมในเว็บไซต์ sameskybooks.org เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อตรวจสอบแล้วพบข้อความทั้ง 2 ข้อความจริง

ข้อความที่โพสต์เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2552 เกี่ยวกับสมเด็จพระเทพฯ นั้นเป็นความเท็จ ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดแต่เสื้อเหลืองและสมเด็จพระเทพฯ ก็เช่นเดียวกัน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศและความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชน 

ส่วนข้อความที่โพสต์เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2552 เป็นข่าวลือเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าพระองค์ทรงประชวรหนักมาก ซึ่งเป็นความเท็จ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของชาติและก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

โดยผู้กระทำผิดตามฟ้องนี้ ใช้นามแฝงในเว็บไซต์ว่า wet dream ซึ่งนายอารีย์ ตรวจสอบแล้วพบว่า ผู้ใช้ชื่อดังกล่าวคือจำเลย และจำเลยใช้อีเมล์ stamp816@hotmail.com จึงตรวจสอบอีเมล์นี้กับธนาคารและพบว่าเป็นอีเมล์ที่จำเลยใช้เปิดบัญชี นอกจากนั้นสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติยังได้ตรวจสอบจนได้หมายเลข IP Address และนายอารีย์ตรวจสอบอีกครั้งโดยส่งอีเมล์ไปยังอีเมล์ดังกล่าว เมื่อมีการกดรับก็ปรากฏว่าเป็นหมายเลขIP เดียวกัน จึงนำไปตรวจสอบกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต คือ บริษัท CS Loxinfo พบว่าหมายเลข IP นั้นเป็นบริษัทที่จำเลยทำงานอยู่

นอกจากนี้พยานโจทก์ซึ่งเป็นนักวิชาการด้านคอมพิวเตอร์ เบิกความว่า เมื่อตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ที่จำเลยใช้ในคอมพิวเตอร์ที่ทำงานแล้วพบคำว่า www.sameskybooks.org กว่า 29,000 ครั้ง และพบผู้ใช้ชื่อ wet dream  กว่า 240 ครั้ง

พ.ต.ท.พีรพัฒน์ ศิริวรชัยกุล พนักงานสอบสวน เบิกความว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามฟ้องพร้อมสิทธิให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพ โดยรับว่าใช้อีเมล์ดังกล่าวสมัครเป็นสมาชิกเว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน และใช้นามแฝงว่า wet dream  ขณะพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาจำเลย มีผู้สื่อข่าวอยู่ด้วยจำนวนมาก ไม่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับขู่เข็ญให้รับสารภาพแต่อย่างใด จำเลยเพียงแต่อ้างว่าได้รับความกดดันและกลัวไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากนั้นมีการสอบปากคำจำเลยอีก 2 ครั้ง จำเลยก็ยังรับสารภาพเช่นเดิม เชื่อว่าจำเลยรับสารภาพด้วยความสมัครใจ

ปัญหาต่อมามีว่า จำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความตามฟ้องหรือไม่ จากการตรวจสอบฮาร์ดดิสก์พบชื่อผู้ใช้งาน Khatap@sameskybooks.org จึงเชื่อว่าจำเลยเข้าใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าวและสมัครสมาชิกเว็บไซต์จริง สอดคล้องกับคำเบิกความของพยานผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ของจำเลยว่า การโพสต์ข้อความในเว็บไซต์ต้องสมัครสมาชิกก่อน ผู้ใช้แต่ละคนจะมี username และ password ซ้ำกันไม่ได้ ดังนั้น การที่ปรากฏ username ว่า wet dream ในคอมพิวเตอร์ของจำเลย จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยใช้งานเพียงแค่เปิดดูเว็บไซต์ดังกล่าวโดยไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความ มิเช่นนั้นแล้วเหตุใดจึงไม่ปรากฏชื่อ username อื่นใน

คอมพิวเตอร์ของจำเลยบ้าง ประกอบกับเอกสารที่ยึดได้จากท้ายรถของจำเลยหลายแผ่นที่ก็มีข้อความทำนองเดียวกับข้อความตามฟ้อง เชื่อได้ว่า จำเลยมีความคิดหรือความเชื่อมั่นสอดคล้องกับเอกสารนั้นจึงโพสต์ข้อความตามข้อมูลที่ได้รับมา

ประมวลพยานหลักฐานโจทก์ ประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดี และคำรับสารภาพในชั้นสอบสวน พยานโจทก์ทั้งหมดเป็นเจ้าพนักงานของรัฐทำตามหน้าที่ ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน ทำให้คำเบิกความมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า จำเลยเป็นผู้โพสต์ข้อความโดยใช้ชื่อว่า wet dream ตามฟ้อง

ประกอบกับช่วงวันที่ 22 เมษายน 2552 มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง การโพสต์ข้อความนั้นอาจทำให้ประชาชนที่ได้อ่านหรือทราบข้อความดังกล่าวย่อมเข้าใจว่าพระมหากษัตริย์ทรงโปรดแต่พวกเสื้อเหลือง และสมเด็จพระเทพฯ ก็เหมือนพระมหากษัตริย์ทรงโปรดแต่พวกเสื้อเหลือง ซึ่งความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า พระมหากษัตริย์และรัชทายาททุกพระองค์ทรงรักและให้ความเมตตาต่อพสกนิกรของพระองค์เท่าเทียมกัน โดยไม่แบ่งแยกว่าเป็นบุคคลของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และพระมหากษัตริย์และรัชทายาททุกพระองค์ก็ทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง เป็นที่รักและเคารพของปวงชนชาวไทยทุกคน จำเลยเป็นคนไทยคนหนึ่งย่อมต้องทราบความข้อนี้ดี ข้อความดังกล่าวจึงเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ประชาชนที่ได้อ่านหรือทราบข้อความดังกล่าวย่อมเข้าใจว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระเทพฯ ทรงไม่เป็นกลางทางการเมือง รักประชาชนไม่เท่าเทียมกัน อันอาจก่อให้เกิดความแตกแยกทางการเมืองรุนแรงมากขึ้นขึ้น อันอาจส่งผลกระทบต่อความั่นคงของประเทศรวมทั้งความสงบสุขของประชาชนและสังคมโดยรวม

การโพสต์ดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีผลต่อตลาดหลักทรัพย์ ทำให้มีการเทขายหุ้น สอดคล้องกับที่พยานจำเลยซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเบิกความไว้ว่าหากตลาดติดลบอยู่แล้วก็จะติดลบมากกว่าเดิมอีก จึงเป็นเรื่องเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศทั้งทางเศรษฐกิจและทางสังคม การมีข่าวร้ายแรงเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอันเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ดังจะเห็นได้ว่าวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมามีประชาชนออกมาถวายพระพรจำนวนมาก จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าความตื่นตระหนกจะไม่เกิดขึ้น 

อย่างไรก็ตาม แม้ข่าวดังกล่าวจะเป็นข่าวลือหรือไม่อย่างไร จำเลยก็ไม่มีสิทธินำข่าวลือโดยเฉพาะข่าวลือที่เกินเลยจากความเป็นจริงและเป็นความเท็จ อันเป็นการใส่ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์หรือบุคคลใดมาโพสต์อินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ที่แพร่กระจายข่าวอย่างรวดเร็ว เพราะหากปล่อยให้จำเลยกระทำเช่นนั้นได้ จำเลยก็ย่อมกล่าวหาหมิ่นประมาทใส่ร้ายผู้ใดก็ได้ โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมหรือผู้ใด ซึ่งเป็นกรณีละเมิดสิทธิผู้อื่นและกฎหมาย

จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาตรา 14(2) หลายกรรมต่างกัน ให้จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 6 ปี จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์กับทางพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 4 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการอ่านคำพิพากษา เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายคธาไปยังห้องขังใต้ถุนศาล ขณะที่ทนายระบุว่าจะใช้หลักทรัพย์ยื่นประกันตัว 4 แสนบาท ซึ่งน่าจะทราบผลการประกันตัวได้ในวันนี้

ล่าสุด เวลา 18.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจำเลยได้รับการประกันตัวแล้วโดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาท

00000

พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
 

มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    
(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

              
(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

              
(3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

              
(4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้

              
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net