Skip to main content
sharethis

ประธานวุฒิสภาเผยยังไม่เรียก 'ส.ว.อุปกิต' สอบจริยธรรม 'โรม' ยืนยันพร้อมสู้คดี หลังถูกฟ้องหมิ่นประมาท และคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวน 100 ล้านบาท

18 ก.พ. 2566 นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยถึงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล อภิปรายเชื่อมโยงข้อมูลนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. เกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินยาเสพติด และให้ตึกเป็นที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั้น ส.ว.จะสามารถเรียกนายอุปกิต มาสอบจริยธรรม หรือดำเนินการอื่นใดควบคู่กันไปได้หรือไม่ ว่า เรื่องนี้เป็นคดีความ โดยนายอุปกิต ฟ้องนายรังสิมันต์ไปแล้ว ดังนั้น ก็ยังไม่ดำเนินการอะไร เพราะว่าไม่ได้มีการยื่น และยังไม่ทราบข้อมูลอย่างเเท้จริง อีกทั้งตนยังไม่ได้ฟังการอภิปรายจากนายรังสิมันต์ แค่ฟังมาจากข่าวเท่านั้น ซึ่งเห็นทางนายอุปกิต ก็ไปฟ้องทันที ดังนั้น การดำเนินการทางจริยธรรมของ ส.ว. ยังไม่ได้มีการดำเนินการ

เมื่อถามว่า ส.ว. สามารถเรียกนายอุปกิตมาสอบเอง หรือว่าต้องรอให้มีคนมาร้องก่อน และในฐานะประธาน ส.ว. สามารถเรียกนายอุปกิต มาดำเนินกระบวนการสอบถามข้อเท็จจริงได้เองหรือไม่ และเรื่องนี้กระทบกับ รทสช. รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย นายพรเพชร กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน และปกติแล้วเรื่องการอภิปราย ก็เป็นเรื่องการอภิปรายในที่ประชุม ซึ่งก็ดีแล้วที่นายอุปกิตไปฟ้องทันที ก็คงจะเป็นเรื่องที่ต่อสู้กันไปก่อน และเรื่องไปถึงศาล เดี๋ยวค่อยดูกันก่อนว่าเป็นอย่างไร ตนก็ตอบได้เท่านี้

เมื่อถามย้ำว่า หากมีผู้มาร้อง คณะกรรมการจริยธรรม ส.ว. สามารถหยิบขึ้นมาสอบได้เลยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า คือมันจะมีขั้นตอนในเรื่องจริยธรรมอยู่ เป็นขั้นตอนที่จะต้องส่งเรื่องไปให้ผู้ที่เกี่ยวข้องคือเจ้าหน้าที่ ศึกษาข้อมูลก่อน ปกติที่ผ่านมามีร้องเข้ามาหลายเรื่องเเล้ว โดยมีการหาข้อเท็จจริง แต่ว่าไม่เกี่ยวกับกรณี ส.ว.อุปกิต เพราะเรื่องเพิ่งจะเริ่ม และท่านก็ไปฟ้องเเล้ว พอไปฟ้องแล้ว โอกาสที่จะไปแทรกเเซงก็ลำบาก ย้ำว่า ปกติถ้าไม่มีใครยกขึ้นมา เราจะดำเนินการสอบกันเอง นอกจากสมาชิกจะร้อง หรือคนอื่นจะร้องเข้ามา ทั้งนี้ เขาไปฟ้องร้องกันเองก็ดีเเล้ว เพราะว่าก็อาจจะมีกรณีฟ้องกลับหรืออะไรกัน ก็เป็นเรื่องของตัวบุคคลกันเเล้ว

เมื่อถามอีกว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า ส.ว.จะไม่ปกป้องกันเอง นายพรเพชร กล่าวว่า มันก็มีการดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่ง ส.ว.ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ผ่านมาก็มีการร้องเข้ามาอยู่บ้าง และก็ยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินการ ไม่ใช่ว่าเราจะไปดำเนินการโดยไม่มีหลักฐาน หรือมีข้อมูลผู้กล่าวอ้างที่ชัดเจน ย้ำว่าเรื่องนี้เขาไปฟ้องเป็นคดีความกันเเล้ว ทาง ส.ว.เข้าไปก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเรื่องเป็นคดีถึงศาลแล้ว

'โรม' ยืนยันพร้อมสู้คดี หลังถูกฟ้องหมิ่นประมาท

นายรังสิมันต์ โรม โฆษกและ ส.ส.พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นหลังจากอภิปรายทั่วไปเรื่อง “ส.ว.ทรงเอ” เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่าผ่านไปเพียง 2 วัน สิ่งที่ตนคาดหมายว่าจะตามมาก็มาอย่างเร็วไว “อุปกิต ปาจรียางกูร” ส.ว. ได้ฟ้องร้องตนในคดีอาญาฐานดูหมิ่นและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวน 100 ล้านบาท

นายรังสิมันต์ ระบุว่า การถูกฟ้องหลังการอภิปรายใหญ่ๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผมแล้ว เมื่อ 3 ปีก่อนตอน ตนอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรื่องมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ตนก็ถูกมูลนิธิฯ ฟ้อง หรือ 1 ปีครึ่งก่อนตอนตนอภิปรายนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส เรื่องสัมปทานดาวเทียมไทยคม ตนก็ถูกบริษัทกัลฟ์ฯ ฟ้อง โดยแต่ละครั้ง ข้อหาก็จะอยู่กับเรื่องการดูหมิ่น-หมิ่นประมาทต่างๆ หรือพยายามเรียกค่าเสียหายสูงๆ หวังจะเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่ให้ใครกล้ามาวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองอีก แม้จะเกี่ยวพันกับเรื่องการใช้อำนาจรัฐหรือผลประโยชน์ของส่วนรวมก็ตาม และไม่ใช่แค่ตนเท่านั้น เพื่อน ส.ส.คนอื่นของพรรคก้าวไกล เช่น น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ก็เคยถูกบริษัทกัลฟ์ฯ ฟ้องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเรื่องนโยบายพลังงานด้วยเช่นกัน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่าการอภิปรายของตนเองและพรรคก้าวไกล เป็นการทำหน้าที่เพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจ การปฏิบัติหน้าที่ หรือพฤติกรรมอื่นใดของรัฐบาลว่า เป็นการบริหารงานที่ผิดพลาด เป็นการทุจริตคอร์รัปชัน หรือเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งบ่อยครั้งจำเป็นต้องพาดพิงบุคคลภายนอก นั่นก็เพราะการกระทำเหล่านี้ของรัฐบาลมักดึงเอาบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ถึงที่สุดแล้วการอภิปรายของพวกเรายังมุ่งเป้าไปที่รัฐบาลเป็นสำคัญ การโต้ตอบโดยใช้วิธีฟ้องร้องคดีกันแบบนี้ แน่นอนว่าย่อมกระทบถึงประสิทธิภาพในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ไม่ใช่แค่โดยตัวผมแต่รวมถึงผู้แทนราษฎรทุกคน แต่ตนยังยืนยันที่จะต่อสู่คดีหมิ่นประมาทดังกล่าวโดยไม่มีการหลบหนี ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะชนะ เหมือนที่ผมสู้ในทุกๆ คดีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของนายอุปกิต นั้น เห็นว่ามีความต่างจากเอกชนรายอื่นๆ ที่ถูกพาดพิงไปก่อนหน้านี้ เพราะตัวนายอุปกิต เป็นถึงสมาชิกของวุฒิสภา หนึ่งในองค์กรผู้ใช้อำนาจสูงสุดของประเทศ และแม้ก่อนหน้านี้ตอนที่ “ทุน มิน ลัต” ถูกจับใหม่ๆ นายอุปกิต จะเคยออกมาชี้แจงต่างๆ นานา แต่จากที่ตนได้อภิปรายไปนั้นก็พบว่ามีข้อมูลหลายอย่างที่ขัดแย้งกับข้อกล่าวอ้างที่ นายอุปกิต เคยชี้แจงไว้ ดังนั้น นายอุปกิต ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กินภาษีประชาชน จึงควรต้องออกมาชี้แจงต่อสังคมเพิ่มเติมด้วย ส่วนตัวนั้นในช่วงเวลาต่อจากนี้จะเร่งดำเนินการต่างๆ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในกรณีของ ส.ว.อุปกิตและกรณีจีนเทาต่อไป โปรดติดตามชม


ที่มาข่าวเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย [1] [2]


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net